เริ่มต้นกันที่โปรแกรมการแข่งขันของกลุ่ม B กันก่อน ในกลุ่มนี้มีทีมทั้งหมด 4 ทีมได้แก่ อังกฤษ อิหร่าน เวลส์ และสหรัฐอเมริกา
โปรแกรมการแข่งขันในกลุ่ม B มีดังนี้
- วันจันทร์ที่ 21 พ.ย. อังกฤษ พบ อิหร่าน เวลา 8.00 น. สนามกีฬาคาลิฟ่า อินเตอร์เนชันแนล
- วันจันทร์ที่ 21 พ.ย. สหรัฐอเมริกา พบ เวลส์ เวลา 14.00 น. สนามกีฬาอาหมัด บิน อาลี
- วันศุกร์ที่ 25 พ.ย. เวลส์ พบ อิหร่าน เวลา 05.00 น. สนามกีฬาอาหมัด บิน อาลี
- วันศุกร์ที่ 25 พ.ย. อังกฤษ พบ สหรัฐอเมริกา เวลา 14.00 น. สนามกีฬา อัล บายาท
- วันอังคารที่ 29 พ.ย. เวลส์ พบ อังกฤษ เวลา 14.00 น. สนามกีฬาอาหมัด บิน อาลี
- วันอังคารที่ 29 พ.ย. อิหร่าน พบ สหรัฐอเมริกา 14.00 น. สนามกีฬาอัลทูมามา
หลังจากทราบโปรแกรมการแข่งขันแบบละเอียดกันไปแล้ว คราวนี้ลองไปดูการวิเคราะห์และข้อมูลของแต่ละทีมกันบ้าง
ทีมชาติอังกฤษ
หลังจากผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศของฟุตบอลโลกปี 2018 และรอบชิงชนะเลิศของยูโร 2021 และไปแพ้จุดโทษให้อิตาลีอย่างเจ็บปวด ทีมชาติอังกฤษก็มุ่งมั่นที่จะทำผลงานให้ดีขึ้นในกาตาร์ เพื่อการคว้าถ้วยรางวัลใหญ่ถ้วยแรกมาตั้งแต่ปี 1966 ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ แกเร็ธ เซาธ์เกตมีผู้เล่นอายุน้อยที่น่าตื่นเต้นอยู่ในมือจำนวนมาก อเช่น จู๊ด เบลลิงแฮม ของดอร์ทมุนด์ และ บูคาโย ซาก้า ของอาร์เซนอล รวมกับนักเตะที่มีประสบการณ์ที่จะเป็นกำลังหลักของทีม เซาธ์เกตมีความคาดหวังว่าแฮร์รี่ แม็คไกวร์ปราการหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะสามารถฟื้นฟอร์มที่ดีที่สุดของเขาก่อนการแข่งขัน ขณะที่แฮร์รี่ เคนจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งอาจมีโอกาสที่จะกลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของประเทศของเขา
อันดับโลกฟีฟ่าปัจจุบัน: อันดับ 5
อันดับในยุโรป : อันดับ 3
แชมป์ฟุตบอลโลก: 1 ครั้งในปี 1966
ลงเล่นฟุตบอลโลกทั้งหมด : 15 นัด (รัสเซีย 2018)
ผลงานในรอบคัดเลือก : ที่หนึ่งในกลุ่ม โดยเอาชนะได้ 8 ครั้ง เสมอ 2 ครั้ง และไม่แพ้ให้ทีมใดเลย
โค้ช: แกเร็ธ เซาท์เกต ตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2016
นักเตะดาวเด่น : แฮร์รี่ เคน (ท็อตแน่ม / อังกฤษ), ดีแคลน ไรซ์ (เวสต์แฮม / อังกฤษ), ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / อังกฤษ)
ทีมชาติสหรัฐอเมริกา
สำหรับทีมชาติสหรัฐฯ เข้าร่วมฟุตบอลโลก 2022 แบบเฉียดฉิว โดยมีประตูได้เสียที่ดีกว่าคอสตาริกา การเข้าร่วมฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งที่ 11 ที่ทีมชาติชายของสหรัฐอเมริกา (USMNT) ได้เข้าร่วมในเวทีระดับโลก โดยผลงานที่ดีที่สุดมาจากรอบรองชนะเลิศในการแข่งขันรอบแรกในปี 1930
ทีมของเกรก เบอเฮาท์เธอร์ เต็มไปด้วยนักเตะวัยหนุ่มที่มีความสามารถพอที่จะผ่านเข้ารอบต่อไปได้ นำทีมโดยคริสเตียน พูลิซิช ของเชลซี ที่ถูกคาดหวังให้รับบทเป็นผู้นำทีม ในขณะที่ จิโอ เรย์น่า ของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะเป็นตัวจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ในการโจมตี เชื่อว่าทีมชาติสหรัฐฯ จะเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ในกลุ่ม B ที่แท้จริง โดยผลงานในรอบคัดเลือกพวกเขาทำได้ทั้งหมดถึง 21 ประตูในรอบคัดเลือก
อันดับโลกฟีฟ่าปัจจุบัน: อันดับ 15
อันดับในโซนคอนคาเคฟ: อันดับที่ 2 (CONCACAF)
ลงเล่นฟุตบอลโลก (ครั้งสุดท้าย): 10 (บราซิล 2014)
ผลงานในรอบคัดเลือก: อันดับ 3 ในโซนคอนคาเคฟ
โค้ช: เกรก เบอเฮาท์เธอร์ คุมทีมตั้งแต่เดือนธันวาคม 2018
ดาราดัง : คริสเตียน พูลิซิช (เชลซี / อังกฤษ), จิโอ เรย์น่า (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ / เยอรมนี), เวสตัน แม็คเคนนี่ (ยูเวนตุส / อิตาลี)
ทีมชาติอิหร่าน
ทีมชาติอิหร่าน ยักษ์ใหญ่ของเอเชียเข้าร่วมฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศติดต่อกันเป็นครั้งที่สามในฐานะทีมชาติอันดับ 1 จากภูมิภาคเอเชียที่สามารถทำผลงานได้โดดเด่นมาตลอด ลูกทีมของ ดราการ สโกซิส ผ่านเข้ารอบในปี 2022 ด้วยสไตล์การเล่นที่โดดเด่น โดยเอาชนะไปได้ 8 ครั้ง แพ้ 1 และ เสมอ 1 ในรอบคัดเลือกรอบสุดท้าย และนั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับอิหร่านที่จะขึ้นอันดับหนึ่งของกลุ่ม แซงหน้าทีมชาติเกาหลีใต้ที่ตามมาเป็นอันดับ 2 นักเตะตัวสำคัญของทีมได้แก่ เมห์ดี้ ทาเรมี กองหน้าปอร์โต้, อาลีเรซา จาฮานบัคช์ กองกลางของเฟเยนูร์ด และซาร์ดาร์ อัซมูนกองหน้าตัวเก่งจากไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น โดยทีมของสโกซิชทำตาข่ายได้ 15 ประตูใน 10 นัดสุดท้ายของรอบคัดเลือก โดยทำคะแนนไปแล้ว 10 ประตูในนัดเดียวที่พบกับกัมพูชาในก่อนหน้านี้
อันดับโลกฟีฟ่าปัจจุบัน: อันดับ 21
อันดับภูมิภาค: 1st (AFC)
ลงเล่นฟุตบอลโลก (ล่าสุด): 6 นัด (รัสเซีย 2018)
ผลงานในรอบคัดเลือก: ผู้ชนะกลุ่มเอเชีย A เอาชนะไป 8 ครั้งเสมอ 1 และแพ้ 1
โค้ช: ดราการ สโกซิส (โครเอเชีย) คุมทีมตั้งแต่ตั้งแต่ กุมภาพันธ์ 2020
นักเตะเด่น: ซาร์ดาร์ อัซมูน (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น / เยอรมนี), อาลีเรซ่า จาฮันบัคช์ (เฟเยนูร์ด / เนเธอร์แลนด์), เมห์ดี้ ทาเรมี (ปอร์โต้ / โปรตุเกส)
ทีมชาติเวลส์
เวลส์เป็นทีมสุดท้ายจากยุโรปที่ได้เข้าร่วมฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย จากการเอาชนะยูเครนไปได้ในรอบเพลย์ออฟในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยการเข้าร่วมครั้งนี้จะเป็นครั้งที่สองหลังจากครั้งแรกเมื่อปี 1958
หากจะพูดกันตามเนื้อผ้า เวลส์เองเป็นประเทศที่ค่อนข้างเล็ก แต่พวกเขาก็ทำผลงานไดัดีในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งการผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของยูโร 2016 ก่อนที่จะพ่ายแพ้ให้กับแชมป์โปรตุเกสในที่สุด แกเร็ธ เบล และ แดเนียล เจมส์ เป็นนักเตะหลักที่เป็นความหวังของทีม
อันดับโลกฟีฟ่าปัจจุบัน: อันดับ 18 (มีนาคม 2022)
อันดับในยุโรป : อันดับที่ 12 (ยูฟ่า)
ลงเล่นฟุตบอลโลก (ครั้งสุดท้าย): 1 (สวีเดน 1958)
โค้ช: โรเบิร์ต เพจ (เวลส์) คุมทีมตั้งแต่เดือนเมษายน 2021
นักเตะเด่น : แกเร็ธ เบล ( เรอัล มาดริด ), แดเนียล เจมส์ (ลีดส์ ยูไนเต็ด / อังกฤษ), คีเฟอร์ มัวร์ (บอร์นมัธ / อังกฤษ)
ทายผลการแข่งขันกลุ่ม B
สำหรับในกลุ่ม B ที่เป็นกลุ่มที่แฟนบอลทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เชื่อว่าทีมชาติอังกฤษที่ได้รับการคาดหมายว่าอาจจะมีสิทธิในการคว้าแชมป์โลกในครั้งนี้ หลังจากที่พลาดท่าไปแพ้จุดโทษให้กับอิตาลีในยูโรเมื่อปีที่แล้ว อังกฤษน่าจะเข้ารอบไปได้ในฐานะจ่าฝูงของกลุ่ม B สำหรับทีมอันดับสองทางทีมงานฟุตบอลโลก 2022 เชื่อว่าน่าจะเป็นทีมชาติเวลส์ที่กำลังโชว์ฟอร์มได้ดี และหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการวางพนันบอลโลกในกลุ่มนี้ เราขอแนะนำเว็บพนันบอลโลกที่ดีที่สุด M88 เว็บชั้นนำในเอเชียที่นำเสนอการแข่งขันฟุตบอลโลกทุกเกมด้วยราคาค่าน้ำที่น่าสนใจ